ปรับสมดุลลำไส้ให้สุขภาพดีอย่างไร?


 
    ลำไส้นั้นช่างแสนมหัศจรรย์ นอกจากจะเป็นระบบย่อยอาหารที่ดีให้กับร่างกายแล้ว ลำไส้ยังมีจุลินทรีย์สุขภาพตามธรรมชาติหลายสายพันธุ์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าการมีจุลินทรีย์สุขภาพดีที่สมดุลจำนวนมากในลำไส้จะช่วยสนับสนุนสุขภาพลำไส้ หากลำไส้เรามีจุลชีพที่ดี ก็จะทำให้สุขภาพของเราดีไปด้วย ลำใส้ก็เป็นอวัยวะอย่างนึงที่เราต้องรักษาดูแลให้ดี เรามาดู 10 แนวทางกู้คืนสมดุลจุลชีพดีในลำไส้เพื่อทำให้เรามีสุขภาพที่ดีจาก เพจ หมอหล่อคอเล่า กันว่าคุณหมอรวบรวมอะไรมาบอกเราบ้าง


1.เลี่ยงอาหารขยะ หรือฟาสต์ฟู้ด


 
 
จากงานวิจัยที่ผ่านมามากมายทั้งในหนูทดลองและในมนุษย์ พบว่า การรับประทาน อาหารขยะหรือฟาสต์ฟู้ด (แป้ง น้ำตาล เกลือโซเดี่ยม และไขมันทรานส์สูง) เป็นประจำติดต่อกันนาน ๆ เป็นสาเหตุที่ทำให้พื้นที่จุลชีพดีในลำไส้ (Microbiome) ของเราโดนยึดไปจากจุลชีพที่ไม่ดี ทำให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย ทำให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้นและอ้วนในที่สุด เพราะฉะนั้น เลี่ยงอาหารฟาสต์ฟู้ดได้จะดีมาก


2.กินอาหารที่มีเส้นใย

 
อาหารของบรรดาเหล่าจุลชีพดีในลำไส้ คือ อาหารที่มีเส้นใยอาหาร (Dietary fibers) มาก ๆ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชนานาชนิด หรือเราเรียกว่า พรีไบโอติก (Prebiotics) แนะนำให้รับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเป็นประจำ


3.ออกกำลังกายเป็นประจำ


 
 
มีงานวิจัยออกมาว่า การออกกำลังกายเป็นประจำนั้น ทำให้เพิ่มความหลากหลายของจุลชีพที่ดีในลำไส้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้จุลชีพเหล่านี้สร้างกรดไขมันสายสั้น ๆ (SCFA) คือ บิวไทเรต (Butyrate) ออกมามากอีกด้วย บิวไทเรตมีความสำคัญต่อร่างกายหลายอย่าง ได้แก่ เป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย เสริมระบบภูมิคุ้มกัน และป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น ดังนั้น การออกกำลังกายสม่ำเสมอจึงทำให้เราไม่อ้วนและยังมีสุขภาพดีด้วยเหตุผลนี้อีกข้อหนึ่งนั่นเอง


4.กินอาหารเมดิเตอร์เรเนี่ยน


การรับประทาน อาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean diet) ให้มากขึ้นอีกนิด อาหารแบบนี้ ได้แก่ ผัก ผลไม้ต่าง ๆ ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ฯลฯ ถั่ว ปลา ชีส และน้ำมันมะกอก (มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว หรือ โอเลอิก อะซิดในสัดส่วนที่สูงดีต่อสุขภาพ) เป็นต้น


5.กินโยเกิร์ตที่มีน้ำตาลน้อง


การกินโยเกิร์ตที่มีน้ำตาลน้อย (Low sugar) ให้มากขึ้น เนื่องจากมีแบคทีเรียดีอยู่ในโยเกิร์ตบ้างไม่มากก็น้อย เเต่ควรเลือกเป็นสูตร Low sugar เพราะการได้น้ำตาลที่มาก ๆ จากโยเกิร์ตที่เราทานนั้น (ซึ่งปัจจุบันชอบเน้นว่า Low fat แต่ในขณะเดียวกันกลับ High sugar) อาจส่งผลตรงกันข้าม คือ ลดจุลชีพดี เพิ่มจุลชีพที่ไม่ดีในลำไส้นั่นเอง


6.หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะ
 
 

7.เสริมโปรไบโอติกส์


เสริมโปรไบโอติกส์ (Probiotics) หรือ จุลชีพที่ดี เพื่อเติมกองทัพทหารรักษาการณ์ให้กับลำไส้ของเราให้มากขึ้น ปัจจุบันมีขายในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่หาซื้อได้ง่ายมากขึ้น


8.ลดการกินเนื้อแดง


กินแต่พอดีไม่มากและบ่อยจนเกินไป เนื่องจากในเนื้อแดงจะมีปริมาณสาร L-carnitine ที่สูง โดยทั่วไปเรามักชินกับชื่อสารนี้ว่าช่วยเผาผลาญไขมันในผู้ที่ออกกำลังกาย แต่ในทางตรงกันข้ามการที่ได้รับในปริมาณที่สูงบ่อย ๆ จะทำให้จุลชีพกลุ่มหนึ่งในลำไส้เราเปลี่ยน L-carnitine ไปเป็นสารที่ชื่อว่า TMA (Trimethylamine) ซึ่งต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสารที่ชื่อว่า TMAO (Trimethylamine-N-oxide) ซึ่งเป็นตัวการของการเกิดภาวะหลอดเลือดเเดงเเข็งตัว (Atherosclerosis) จนนำมาซึ่งโรคหัวใจและหลอดเลือดนั่นเอง


9.งดการอักเสบเรื้อรัง ในร่างกายให้ได้


เนื่องจากการอักเสบเรื้อรัง มีสาเหตุมาจากหลายอย่างนอกเหนือจากเรื่องของอาหารการกินเเล้ว ยังมาจากความเครียดสะสมและพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ดีอีกด้วย เช่น การนอนดึก การอดอาหารมื้อเช้า การออกกำลังกายที่มากเกินไป (Over training) หรือแม้เเต่การได้รับสารพิษจากสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเราอีกด้วย เช่น โลหะหนัก สารพิษตกค้างในผัก ผลไม้ อาหารต่าง ๆ นั่นเอง


10.กินอาหารให้หลากหลายชนิดและหมุนเวียนกันไป


เนื่องจากการที่เรายึดติดอยู่กับอาหารแบบเดิม ๆ นั้นจะทำให้จุลชีพที่ดีในลำไส้ของเรามีความหลากหลายที่น้อยลง อย่างไรก็ตามอาหารที่เลือกทานก็ควรต้องเป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย

จากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าเมื่อเราปฏิบัติแล้วยังมีโอกาสสามารถเกิดโรคภัยขึ้นได้ ซึ่งก็ต้องมีการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันซึ่งก็ต้องได้รับการรักษาจากยาปฏิชีวนะซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียง ซึ่งในยุคสมัยนี้การแพทย์แผนทางเลือกกำลังเป็นที่นิยมและเกิดผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยมาก ในที่นี้ก็แนะนำยาสมุนไพรจีนสูตรโบราณที่มีชื่อว่า โหย่งเหิง และ โหย่งหมิง ซึ่งเป็นยาอายุวัฒนะ มีผลช่วยในการยับยั้งป้องกันเชื้อโรคที่เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะหรือระบบป้องกันต่างๆภายในร่างกาย


เครดิต : eln.theasianparent, health.teenee

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็บคอมากขนาดไหน สังเกตตัวเองด่วนว่าเป็น ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือไม่ !!

FISH OIL น้ำมันปลา ดีต่อสุขภาพอย่างไร เรื่องที่คุณต้องรู้

“ไม่ฟอกไต ฟอกเลือด ล้างไต” ได้หรือไม่?