หลีกเลี่ยงซะ!! พฤติกรรมแย่ๆที่ทำแล้วเสี่ยงป่วยได้
ณ ปัจจุบันและอนาคต สาเหตุแห่งการป่วยของมนุษย์ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคเท่านั้น อาจมีโรคที่อาจไมไ่ด้เกิดจากเชื้อโรคก็เป็นได้ บางครั้งสาเหตุการป่วยก็อาจเกิดจากการไม่ค่อยดูแลตัวเองได้ อาจเพราะคุณไม่รู้ว่าการกระทำแบบนี้ส่งผลแบบไหนต่อร่างกาย ซึ่งพฤติกรรมแย่ๆที่ทำให้ร่างกายป่วยได้แก่
1. ไม่รับประทานอาหารเช้า
หากไม่รับประทานอาหารเช้าจะทำให้เกิดอาการหงุดหงิดได้ง่ายกว่าช่วงเวลาอื่นๆของวัน เนื่องจากในช่วงกลางคืนได้ผ่านการอดอาหารมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว จึงทำให้ตื่นเช้ามาเกิดอาการหิว และหากไม่กินอาหารเช้าอีกก็จะทำให้หิวจนหงุดหงิดไปใหญ่ นอกจากนี้หากหิวมากๆก็ อาจไปหาของหวานหรือของว่างมากิน จนได้รับพลังงานเกินความจำเป็นทำให้อ้วนมากขึ้นได้
2. กินน้ำน้อย
การดื่มน้ำน้อยอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น ขี้เกียจลุกไปหาน้ำดื่ม ทำงานเพลิน คิดว่าทนต่อไปก็คงไม่เป็นอะไร ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม การขาดน้ำจะทำให้เยื่อบุที่ปาก จมูก และดวงตาเกิดอาการแห้ง อักเสบ และมีการเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอวัยวะเหล่านี้ได้ ไม่เพียงเท่านั้นการขาดน้ำอาจทำให้ปวดหัวและเกิดอาการหงุดหงิดได้
3. มีนิสัยชอบกัดเล็บ ขยี้ตา จับจมูก
บริเวณใบหน้าถือเป็นส่วนบอบบางที่เชื้อโรคทั้งหลายสามารถรุกรานเข้าร่างกายได้เป็นอย่างดี และใน 1 วันมือก็หยิบจับทำกิจกรรมต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะทำงานบ้าน ทำงาน หยิบเอกสาร จับลูกบิดประตู เป็นต้นดังนั้นจึงมีโอกาสรับเอาเชื้อโรคต่าง ๆ หลายชนิดมาติดไว้ที่ปลายนิ้วมือได้ และเมื่อเอานิ้วไปสัมผัสกับเยื่อบุต่าง ๆ เช่น ที่ตา ก็จะทำให้เกิดตาแดง ตาอักเสบ หากนิ้วมือไปถูกกับจมูก ก็จะทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้หลายชนิด หรือหากมือไปถูกที่ปากก็จะทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้
4. กินอาหารไม่หลากหลาย ไม่ครบหมู่
การกินอาหารซ้ำๆเหมือนเดิมทุกวัน หรือทานไม่ครบหมู่ เช่น การทานหมูปิ้งข้าวเหนียว ไข่เจียว ทุกวันๆโดยไม่ค่อยได้ทานผักผลไม้เลย อาจทำให้ขาดสารอาหารจากผักและผลไม้ได้ นอกจากนี้อาหารแต่ละชนิด วัตถุดิบแต่ละประเภท อาจมีข้อเด่นข้อด้อยของสารอาหารที่ต่างกันไป หากกินอาหารซ้ำเดิมบ่อยๆก็ อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคขาดสารอาหารหรือวิตามินได้
5. กินอาหารบนโต๊ะทำงาน
หลายคนอาจไม่อยากให้การทำงานสะดุด จึงนำข้าวมากินบนโต๊ะทำงานไปด้วย ซึ่งการทำแบบนี้ไม่ถูกต้องเพราะบนโต๊ะทำงานอาจมีเชื้อโรคที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่คอมพิวเตอร์ ที่เมาส์ หรือคีย์บอร์ด แล้วหากเอามือไปจับอุปกรณ์นั้นแล้วมาจับอาหาร เชื้อโรคต่างๆก็จะสามารถเข้าปากทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารได้เช่นกัน นอกจากนี้การนำอาหารมารับประทานบ่อยๆก็อาจทำให้อ้วนได้
6. ล้างมือไม่ถูกต้อง
มือคืออวัยวะที่สามารถนำพาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายที่สุด การล้างมือจึงเป็นการลดเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ร่างกายได้ แต่ปัญหาคือมีคนจำนวนไม่น้อยยังล้างมือได้ไม่ถูกวิธี เช่น ล้างแบบลวกๆแค่เอามือผ่านน้ำแป๊บเดียว หรือล้างมือแบบไม่ฟอกสบู่ ดังนั้นดีที่สุด คือ ก่อนสัมผัสบริเวณใบหน้าหรือหยิบจับอาหารควรล้างมือแบบถูกวิธี ซึ่งจะเป็นแบบ 6 ขั้นตอน หรือ 7 ขั้นตอนก็ได้
7. ใช้อุปกรณ์สื่อสารมากเกินไป
ปัจจุบันอุปกรณ์สื่อสารหรือมือถือได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นไปแล้วสำหรับหลายๆคน แต่การใช้งานมากเกินไปหรือผิดวิธีก็จะทำให้เกิดโรคได้ ไม่ว่าจะเป็นตาแห้ง ปวดเมื่อยต้นคอจากการก้มหน้ามากเกินไป หรือ สมองเคร่งเครียดเกินไป ซึ่งล้วนเป็นสิ่งไม่ดีทั้งนั้น
8. นั่งโต๊ะทำงานไม่ถูกต้อง
การนั่งทำงานบนโต๊ะแบบไม่ถูกต้อง เช่น นั่งก้มหน้า นั่งหลังหงอ การนั่งเป็นระยะเวลายาวนานมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้ นับตั้งแต่ศีรษะไปจนจรดปลายเท้า อีกทั้งทำให้เสียสุขภาพและเสียประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย
9. เครียดกับงานและเรื่องครอบครัวมากเกินไป
ความเครียดนับว่าเป็นบ่อเกิดของโรคหลาย ๆ โรคได้ โดยเมื่อเกิดความเครียดจะทำให้ร่างกายเกิดการหลั่งฮอร์โมนขึ้นมาเพื่อตอบสนองความเครียดนั้น ๆ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจและสมองมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ภูมิต้านทานร่างกายแย่และเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
10. สูบบุหรี่
บุหรี่ทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาได้มากมายทั้งตัวผู้สูบเองและผู้ใกล้ชิดที่ได้ควันบุหรี่เข้าไปด้วย เช่น โรคหัวใจ เส้นเลือดสมอง ถุงลมโป่งพอง อีกทั้งยังทำให้ระบบทางเดินหายใจอ่อนแอ ติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นทางที่ดีจึงควรเลิกสูบบุหรี่ทันที เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ย่ำแย่ในอนาคตทั้งกับตนเองและคนรอบข้าง
11. ไม่ออกกำลังกาย
ทุกคนคงพอทราบกันดีว่า การออกกำลังกายมีประโยชน์ แค่เพียงออกกำลังกายทุกวันหรือ 3-4 วันใน 1 อาทิตย์ วันละไม่ต่ำกว่า 30 นาที แค่นี้สุขภาพก็จะแข็งแรง และห่างไกลจากโรค แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ค่อยมีใครทำได้ ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีจึงควรหันมาเริ่มออกกำลังกายอาจเริ่มจากง่ายๆก่อน เช่น แกว่งแขน เดินเร็ว ๆ ฮูล่าฮูป ทำงานบ้าน ซึ่งเพียงแค่ไม่อยู่นิ่งและใช้กำลังก็จะได้ประโยชน์แล้ว
อยากร่างกายแข็งแรงสุขภาพดี อย่าลืมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ แล้วคุณจะมีสุุขภาพดีอย่างแน่นอน
ถ้าเมื่อใดเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาแล้วก็ต้องรักษา แต่เดี๋ยวจากที่ปัจจุบันมีการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นโดยการผ่าตัด แต่ก็มีหลายๆคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด เราจึงมีคำแนะนำให้รักษาด้วยการแพทย์แผนทางเลือกซึ่งจะใช้สมุนไพรในการบำบัด ซึ่งสามารถรักษาควบคู่ไปกับการกายภาพบำบัด เช่นการใช้ยาน้ำสมุนไพรจีนโหย่งเหิง หรือ ยาเม็ดสมุนไพรจีนโหย่งหมิง ซึ่งมีตัวยาสมุนไพร เช่น ตังถั่งเฉ้าปัก,เต็กย้ง(เขากวาง),เก๊ากี๊,โต่วต๋ง และอีกกว่า กว่า 30 ชนิด ที่ช่วยปรับสภาพสมดุลของร่างกายปรับสภาพเลือด บำรุงเลือด บำรุงกระดูก โดยสมุนไพรธรรมชาติ และขับสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยบำบัดรักษาโรคแห่งความเสื่อมต่างๆให้ดีขึ้น
เครดิต ปากตลาด
จะไม่ขอให้กอดหน่อย แต่จะอ่อยให้กอดอีก ufabet
ตอบลบเป็นอุทาหรณ์ที่ดีคะ pussy888
ตอบลบ