"โรคร่าเริง" ชื่อสนุก กลางวันไม่ตื่น กลางคืนไม่นอน เสี่ยงตายได้!!



“โรคร่าเริง” ชื่อโรคแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นมาในยุคปัจจุบัน เพราะถึงแม้ชื่อโรคจะฟังดูสนุกสนาน แต่ร่างกายของเราไม่ได้เริงร่าตามชื่อแม้แต่น้อย เรามาตวรจสอบการใช้ชีวิตของตัวเองในยุคดิจิตอลนี้กันก่อนดีกว่าว่า  เสี่ยงเป็น “โรคร่าเริง” หรือไม่


ถ้าพฤติกรรมของคุณเป็นเช่นนี้ล่ะก็ บอกเลยว่า ความสุ่มเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม และโรคเบาหวาน มาเยือนแล้วนะเออ


พฤติกรรม 5 อย่างสร้างโรคร่าเริง
1. ตื่นมากินอาหารตอน 10-11 โมง และชอบรสจัด
2. เวลานอนไม่นอน เวลาทำงานกลับง่วง
3. ไม่ออกกำลังกาย กลางวันจึงอ่อนเพลีย
4. ชอบดื่มของมึนเมา อ้างว่ากินให้สมองแล่น
5 .ชอบดื่มกาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง


ถ้าใครไม่อยากเป็นโรคร่าเริง แนะนำให้ปรับตารางเวลาการใช้ชีวิตใหม่อย่างสมดุล แต่ถ้านอนไม่หลับในช่วงเวลาดังกล่าวจริงๆ ก็ไม่ควรฝืนร่างกายโดยการรับประทานยานอนหลับ แต่ควรออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือเย็น แล้วอาบน้ำนอน วิธีการนี้จะทำให้ร่างกายนอนหลับได้สนิทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การไม่เล่นคอมพิวเตอร์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิส์ที่ผลิตแสงสีฟ้าอาจช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นอีกเล็กน้อย และไม่ควรดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนหลังเวลา 15.00 น. ทั้งนี้ เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดคาเฟอีนออกไปทางปัสสาวะให้หมดก่อน จึงจะนอนหลับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ


หลัก 8 อ. ห่างไกลโรคร่าเริงในระยะยาว

1.อาหาร ควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างเต็มที่

2.ออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว ช่วยให้ร่างกายมีความกระฉับกระเฉง 

3.ออกซิเจน การหายใจสั้น จะทำให้สูดออกซิเจนเข้าหัวได้ไม่เต็มที่ เวลาคิดงานก็จะคิดไม่ค่อยออก และควรพยายามคลายเครียดให้อยู่ในสมดุล 

4.เอนกาย การนอนพัก คือ ควรจะจัดสุขลักษณะที่ดีให้เหมาะสมกับการนอน ก็จะช่วยให้เรื่องของการหลับพักผ่อนเป็นไปด้วยดี หรืออาจจะรับประทานกล้วยหอมก่อนจะเข้านอนสักประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นทริคเล็กๆ ในเรื่องของการนอน เพราะในกล้วยหอมมีสารที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับได้เป็นอย่างดี

5.อารมณ์ การผ่อนคลาย ก่อนเข้านอน พยายามทำร่างกายให้รู้สึกรีแลกซ์มากที่สุด จะช่วยให้หลับสบายขึ้น 

6.เอาพิษออก การขับถ่ายที่เป็นเวลาเป็นการเอาของเสียออกจากร่างกาย ถ้ามีสารพิษสะสมร่างกายก็จะรู้สึกอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา 

7.อาชีพ เช่น แอร์โฮสเตสที่มีการนอนไม่เป็นเวลา ครีเอทีฟ นักเขียน ที่ต้องใช้ความเงียบในการคิดงาน วิธีนี้อาจจะแก้ไขปัญหา เช่น ช่วงเวลาที่ต้องคิดงาน อาจหามุมเงียบๆ เพื่อช่วยให้การคิดงานได้ดีขึ้น พยายามอย่าเอางานไปโหลดในช่วงกลางคืน เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ 

8.อิทธิบาท 4 อย่างน้อยต้องมีจิตใจของเราเองที่รู้สึกว่า อยากจะดูแลตัวเอง คอยดูว่าตอนนี้ร่างกายเราเป็นอย่างไร เพราะถ้าปล่อยให้ฮอร์โมนตกลงไปเรื่อย ภูมิคุ้มกันก็จะยิ่งต่ำลง การเผาผลาญพลังงานก็จะแย่ลง ก่อให้เป็นโรคอื่นๆ ตามมา


จะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้มีการรักษาจากแพทย์แผนทางเลือกควบคู่กันไปด้วย โดยใช้ยาสมุนไพรบำบัด ซึ่งไม่มีผลข้างเคียงเหมือนยาแผนปัจุบัน เช่น เช่น ยาน้ำสมุนไพรโหย่งเหิง หรือ ยาเม็ดสมุนไพรโหย่งหมิง ซึ่งมีทั้งตัวยาจาก "ถั่งเช่า" ที่ช่วยต้านโรคมะเร็ง ปรับสภาพสมดุลของร่างกาย ทำให้นอนหลับลึกเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคได้ดียิ่งขึ้น และขับสารพิษออกจากร่างกายด้วย 












เครดิต :
-พญ.พัชรนันท์ ศรีพัฒนะวัชร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ Anti Aging โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
-infographic thailand











ถ้าใครไม่อยากเป็นโรคร่าเริง แนะนำให้ปรับตารางเวลาการใช้ชีวิตใหม่อย่างสมดุล แต่ถ้านอนไม่หลับในช่วงเวลาดังกล่าวจริงๆ ก็ไม่ควรฝืนร่างกายโดยการรัยประทานยานอนหลับ แต่ควรออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือเย็น แล้วอาบน้ำนอน วิธีการนี้จะทำให้ร่างกายนอนหลับได้สนิทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การไม่เล่นคอมพิวเตอร์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิส์ที่ผลิตแสงสีฟ้าอาจช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นอีกเล็กน้อย และไม่ควรดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนหลังเวลา 15.00 น. ทั้งนี้ เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดคาเฟอีนออกไปทางปัสสาวะให้หมดก่อน จึงจะนอนหลับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ขอบคุณที่มา : โรคร่าเริง เสี่ยงตายเร็ว! ถ้าคุณอดหลับอดนอน ชอบทำงานกลางคืน
ถ้าใครไม่อยากเป็นโรคร่าเริง แนะนำให้ปรับตารางเวลาการใช้ชีวิตใหม่อย่างสมดุล แต่ถ้านอนไม่หลับในช่วงเวลาดังกล่าวจริงๆ ก็ไม่ควรฝืนร่างกายโดยการรัยประทานยานอนหลับ แต่ควรออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือเย็น แล้วอาบน้ำนอน วิธีการนี้จะทำให้ร่างกายนอนหลับได้สนิทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การไม่เล่นคอมพิวเตอร์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิส์ที่ผลิตแสงสีฟ้าอาจช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นอีกเล็กน้อย และไม่ควรดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนหลังเวลา 15.00 น. ทั้งนี้ เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดคาเฟอีนออกไปทางปัสสาวะให้หมดก่อน จึงจะนอนหลับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ขอบคุณที่มา : โรคร่าเริง เสี่ยงตายเร็ว! ถ้าคุณอดหลับอดนอน ชอบทำงานกลางคืน
ถ้าใครไม่อยากเป็นโรคร่าเริง แนะนำให้ปรับตารางเวลาการใช้ชีวิตใหม่อย่างสมดุล แต่ถ้านอนไม่หลับในช่วงเวลาดังกล่าวจริงๆ ก็ไม่ควรฝืนร่างกายโดยการรัยประทานยานอนหลับ แต่ควรออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือเย็น แล้วอาบน้ำนอน วิธีการนี้จะทำให้ร่างกายนอนหลับได้สนิทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การไม่เล่นคอมพิวเตอร์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิส์ที่ผลิตแสงสีฟ้าอาจช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นอีกเล็กน้อย และไม่ควรดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนหลังเวลา 15.00 น. ทั้งนี้ เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดคาเฟอีนออกไปทางปัสสาวะให้หมดก่อน จึงจะนอนหลับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ขอบคุณที่มา : โรคร่าเริง เสี่ยงตายเร็ว! ถ้าคุณอดหลับอดนอน ชอบทำงานกลางคืน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็บคอมากขนาดไหน สังเกตตัวเองด่วนว่าเป็น ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือไม่ !!

FISH OIL น้ำมันปลา ดีต่อสุขภาพอย่างไร เรื่องที่คุณต้องรู้

“ไม่ฟอกไต ฟอกเลือด ล้างไต” ได้หรือไม่?