ปุ๋ยทางใบ ปุ๋ยน้ำดีอย่างไร ไปดูกัน?



ปุ๋ยทางใบ เป็นปุ๋ยที่เป็นสารละลายแล้ว ฉีดพ่นทางใบ เพื่อให้ธาตุอาหารแก่พืช ใบพืชอยู่ในอากาศ จะมีโอกาสดูดธาตุอาหารได้เฉพาะ จากสารละลายที่มาสัมผัสใบเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ใบจึงได้รับธาตุอาหารตามธรรมชาติจากน้ำฝนและน้ำค้าง การฉีดพ่นปุ๋ยทางใบให้แก่พืช เป็นการช่วยให้พืชได้รับธาตุอาหารได้มากขึ้นและเร็วขึ้น



       ชนิดของปุ๋ยทางใบ ปุ๋ยทางใบที่ใช้กันอยู่มี 2 ชนิด คือ ปุ๋ยเกล็ด เป็นปุ๋ยชนิดแข็งที่มีสภาพเป็นรูปผลึกของสารประกอบ ผลิตจากการนำแม่ปุ๋ยชนิดต่างๆ มาผสมกัน ให้ได้สูตรที่ต้องการ เป็นปุ๋ยที่ละลายน้ำง่าย ส่วนปุ๋ยน้ำหรือปุ๋ยเหลว เป็นปุ๋ยที่ได้จากการละลายแม่ปุ๋ยในน้ำให้ได้สัดส่วนเป็นปุ๋ยสูตรต่างๆ โดยที่แม่ปุ๋ยจะถูกละลายได้ทั้งหมด วิธีใช้ปุ๋ยเพียงแต่นำมาเจือจางด้วยน้ำในอัตราที่พอเหมาะ แล้วนำไปฉีดพ่นพืชได้ทันที


        ข้อดีของปุ๋ยทางใบ จะช่วยให้พืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากการย้ายปลูกและตั้งตัวได้แล้ว สามารถใช้กับอาการขาดธาตุอาหารในระยะแรกๆ ได้ดี  อาจใช้ผสมกับการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรคแมลง และควบคุมวัชพืชได้ เป็นการประหยัดแรงงาน หรือจะใช้กับพืชที่ปลูกในดินที่มีปัญหา เช่น ดินเค็ม ดินเปรี้ยวจัด ดินทรายจัด ดินเหนียวจัด หรือดินที่มีปัจจัยแวดล้อมขวางการดูดใช้ธาตุอาหารทางระบบราก  ยังใช้ในการเสริมธาตุอาหารหลัก คือ ไนโตรเจน ในรูปปุ๋ยยูเรีย และการให้ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริมแก่พืช ทั้งนี้เพราะ พืชสามารถดูดธาตุอาหารโดยทางใบได้มากกว่า และเร็วกว่าการดูดทางราก จึงใช้ประโยชน์จากธาตุอาหารได้เร็ว ช่วยให้พืชฟื้นตัวเร็วหลักจากชะงัก เนื่องจากกระทบแล้งหรือถูกโรคแมลงทำลาย นอกจากนี้แล้ว ปุ๋ยน้ำ มีความสม่ำเสมอของเนื้อปุ๋ยแน่นอนกว่าปุ๋ยเกล็ด มีปริมาณเนื้อปุ๋ยรวมสูงกว่าปุ๋ยเกล็ด ทำให้ทุ่นค่าใช้จ่ายในการขนส่งมากกว่า ปุ๋ยน้ำผลิตง่ายและเปลี่ยนแปลงปรับปรุงสูตรได้ง่าย จึงผลิตได้มากสูตรกว่าปุ๋ยชนิดเกล็ด ซึ่งจะง่ายต่อการขนส่งและการใช้ด้วย


         ข้อเสียของปุ๋ยทางใบ โดยทั่วไปการใช้ปุ๋ยทางใบเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถจะให้ธาตุอาหารแก่พืชได้อย่างเพียงพอในปริมาณที่เท่าเทียมกับปุ๋ย ทางดิน เพราะถ้าให้ในระดับความเข้มข้นสูงเกินไป อาจทำให้พืชใบไหม้ การให้ปุ๋ยทางใบเพียงอย่างเดียว จะทำได้เฉพาะกับพืชที่ให้ผลตอบแทนสูงมากเท่านั้น เพราะจะต้องให้ปุ๋ยบ่อยครั้งตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอ


       ปุ๋ยน้ำ ชนิดสารละลายไม่สามารถผลิตให้มีเกรดสูงๆได้ โดยทั่วไปมักมีปริมาณของธาตุอาหารรวมของ NPK ไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ ปุ๋ยน้ำละลายธาตุอาหารเสริมและธาตุอาหารรองได้น้อย ยกเว้นปุ๋ยน้ำที่ใช้แม่ปุ๋ยในรูปของสารประกอบพวกโพลิฟอสเฟตและสารคีเลต ปุ๋ยน้ำโดยทั่วไปจะควบคุมคุณภาพได้ยากกว่าปุ๋ยเม็ดและปุ๋ยเกล็ด ราคาต่อหน่วยของธาตุอาหารในปุ๋ยน้ำสูงกว่าราคาต่อหน่วยของธาตุอาหารในปุ๋ย เม็ดและปุ๋ยเกล็ด และมีเกรดที่ต่ำกว่าด้วย


       คุณสมบัติที่ดีของปุ๋ยทางใบ คือมีสูตร สูง อย่างน้อยควรมีส่วนผสมรวมของ NPK ไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับปุ๋ยน้ำ และ 60 เปอร์เซ็นต์ สำหรับปุ๋ยเกล็ด ควรประกอบด้วยธาตุอาหารเสริมบางธาตุ หรือหลายๆ ธาตุนอกเหนือจากธาตุอาหารหลัก ควรเป็นปุ๋ยที่สามารถละลายน้ำได้เร็วและละลายน้ำได้ทั้งหมด ควรอยู่ในรูปผลึกขนาดเล็ก ที่มีความบริสุทธิ์สูง ไม่ชื้นง่าย และไม่ควรมีค่าความชื้นมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์


     สุดท้าย ขอฝากเรื่องการใสปุ๋ยที่ดี ต้องใช้หลัก 5 ถูก คือ
1. ถูกต้อง (ตามหลักวิชาการ)
2. ถูกชนิด (ชนิดของพืช)
3. ถูกเวลา (วัน/เดือน/ปี เช้า/เย็น)
4. ถูกปริมาณ (อัตราส่วน/ไร่/ต้น)
5. ถูกวิธี (ทางดิน/ทางใบ)


เครดิต: เกษตร หนังสือพิมพ์แนวหน้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็บคอมากขนาดไหน สังเกตตัวเองด่วนว่าเป็น ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือไม่ !!

FISH OIL น้ำมันปลา ดีต่อสุขภาพอย่างไร เรื่องที่คุณต้องรู้

“ไม่ฟอกไต ฟอกเลือด ล้างไต” ได้หรือไม่?